1. เป็นเกมที่เปิดแลกกันอย่างสนุก
แม้เกมนี้เจ้าบ้าน เชลซี จะเป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่ารวมถึงหาจังหวะยิงได้มากกว่า แต่ต้องบอกว่า แอสตัน วิลลา สู้ได้ค่อนข้างสูสีโดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังที่ทั้งสองทีมพยายามเน้นเกมบุกกันมากขึ้น ชนิดที่มีบางช่วงต่างฝ่ายทางพลัดกันขึ้นมาลุ้นจบสกอร์แบบหวาดเสียวกันได้อย่างต่อเนื่อง
แต่ปัญหาในเรื่องความเฉียบขาดของทั่งคู่ทำให้ผลจบออกมาด้วยการแบ่งแต้มกันไปในเกมวันนี้
2. แลมพาร์ด กับการบ้านในเกมรุก
ตลอด 90 นาทีในเกมนี้ เราจะเห็นวิธีการเข้าทำของ เชลซี เป็นการเน้นขึ้นเกมจากริมเส้น และแทบทั้งหมดเป็นการพยายามเปิดจากบริเวณสุดเส้นหลัง
โดยแทบไม่มีจังหวะเจาะเข้าทำจากตรงกลางหรือลูกโยนแบบเออร์ลีครอสส์ให้เห็นเลย นั่นทำให้เกมรุกของพวกเขาถูกอ่านทางได้ค่อนข้างง่าย แถมการเข้าทำแบบนี้ต้องอาศัยความคล่องตัวของปีก และที่สำคัญคือการเปิดบอลอันแม่นยำ
ซึ่งดูจะไม่ใช่จุดเด่นของทั้ง พูลิซิช และ โอดอย เท่าใดนัก อีกทั้งหลังจากเปลี่ยน ชิรูด์ ออกไปทำให้ลูกโยนจากริมเส้นของพวกเขาก็ลดความน่ากลัวลงไปพอสมควรเลยทีเดียว
3. อันดับในตารางไม่เคยโกหกใคร
จาก 1 คะแนนในเกมนี้ ทำให้ แอสตัน วิลลา ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 มี 26 คะแนนจากการลงเล่น 14 นัด ขณะที่ เชลซี แม้จะรั้งอันดับ 6 ชั่วคราวด้วยการมี 26 แต้มเท่ากัน แต่พวกเขาแข่งไปแล้วถึง 16 เกม
ในขณะที่อันดับ 7 ถึง 9 มีช่องว่างห่างจากพวกเขาเพียง 1 คะแนนแถมทุกทีมยังแข่งน้อยกว่าทั้งหมด นั่นหมายความว่าหากทีมอันดับ 7 สเปอร์ส อันดับ 8 แมนฯ ซิตี้ และอันดับที่ 9 เซาแธมป์ตัน คว้าชัยได้ในเกมวีคนี้ จะทำให้ สิงห์บลู ร่วงลงไปอยู่กลางตารางในอันดับที่ 9 ส่งท้ายปี 2020 ในทันที !
ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> dynamoufa.com | daymanufabet.com